นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีดราม่าการเสียชีวิตดาราตลกชื่อดัง “น้าค่อม ชวนชื่น” บางส่วนโทษว่าเป็นเพราะการบริหารจัดการของรัฐบาล ว่า ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัว น้าค่อมด้วย และแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่ทุกคน ไม่มีใครสบายใจเมื่อมีคนไข้ หรือผู้ป่วยเสียชีวิตเพิ่มขึ้น แต่อย่างไรก็ตามบุคลากรทุกคนไม่เสียใจกำลังใจ และจะพยายามทำงานกันอย่างเต็มที่
"บุคลากรสาธารณสุข แพทย์ ทุกคนทำงานอย่างเต็มที่สุดความสามารถ ให้ความเป็นธรรมกับผู้ป่วยทุกคน เมื่อมีการเสียชีวิต แม้เราเสียใจแต่เราจะไม่สูญเสียกำลังใจ และต้องเดินหน้าดูแลผู้ป่วยให้ดีขึ้น" นายอนุทิน กล่าว
นายอนุทิน ยังกล่าวถึงความคืบหน้าในการจัดหาวัคซีนโควิด 19 ภายหลังหารือกับบริษัท ซิโนฟาร์ม ว่า เป็นการหารือเพื่อยืนยันว่ากระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ยินดีสนับสนุนการขึ้นทะเบียนวัคซีนโควิดทุกยี่ห้อ โดยในส่วนของซิโนฟาร์มยังขาดเรื่องของเอกสาร ซึ่งหากยื่นเรื่องมายังสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ครบ ก็สามารถเข้าสู่กระบวนการเจรจาได้
พร้อมย้ำวัคซีนโควิดในไทยเสรีไม่ได้มีการเลือกยี่ห้อ ขณะนี้ไทยมีวัคซีนโควิดเข้ามาหลากหลายมากขึ้น หลังจากหลายบริษัทเริ่มผลิตวัคซีนและมีมากพอที่จะจำหน่ายและติดต่อมาขึ้นทะเบียนกับไทย ซึ่งการฉีดวัคซีนจะจัดสรรตามกลุ่มอายุและจับคู่กับวัคซีนและละยี่ห้อ ตามคำแนะนำของคณะกรรมการวิชาการที่ดูแลด้านความปลอดภัยในการใช้วัคซีนพิจารณา อ้างอิงถึงประสิทธิภาพและความปลอดภัย เช่นเด็กอายุ 12 ปี ต้องได้รับวัคซีนของไฟเซอร์ หรือคนสูงอายุ 60 ปีขึ้นไปต้องได้รับวัคซีนแอสตร้าเซเนกา หรืออายุ 18-59 ปี ได้รับวัคซีนจากซิโนแวค
ทั้งนี้วัคซีนโควิดหลักของไทยยังคงเป็นแอสตร้าเซเนก้า และคาดว่าจะทยอยมาในเดือน มิ.ย. และสามารถฉีดให้กับประชาชนได้ พร้อมกันยังกล่าวว่าวันนี้เปิดศูนย์แรกรับที่อาคารนิมิบุตร วันแรกเชื่อว่าจะช่วยบรรเทาความเดือดร้อน เรื่องการรอเตียงในผู้ป่วยติดเชื้อเริ่มแรก เนื่องจากปัญหาเตียงเกิดขึ้นเพียงที่เดียว คือกรุงเทพมหานคร ที่มีปัญหาเรื่องโครงสร้างการบริหารจัดการ คนจำนวนมาก ซึ่งทางหน่วยงานอย่าง กทม.อาจแก้ไขดูแลไม่ทั่วถึง ทางกระทรวงสาธารณสุขจึงได้เข้ามาช่วยเหลือประสานให้แต่ต้องติดต่อเข้ามา ในอนาคตต้ังเป้าให้เกิดศูนย์แรกรับใน 4 มุมเมือง.
